การขนส่งสินค้าของจีนมาไทย ช่องทางที่ลูกค้าที่เป็นบริษัท โรงงาน พ่อค้าแม่ค้าขายส่ง เปิดโกดังในไทย นิยมเลือกกันมากที่สุดคือทางเรือ SEA
3 เหตุผลที่ลูกค้าขายส่ง-เปิดโกดัง เลือกการเหมาตู้คอนเทนเนอร์แบบFCL
1. ไม่ว่าของจะหนักหรือจะมีจำนวนกี่พันชิ้น ก็ไม่ต้องกังวลเพราะ CVT CARGO จัดการลากตู้คอนเทนเนอร์ไปที่โรงงานจีนเพื่อให้โรงงานเป็นผู้โหลดสินค้า และหลังจากนั้น CVT จัดการทำเรื่องส่งออกจากจีนและนำเข้ามาไทย ให้ตามเงื่อนไขเอกสารที่ลูกค้าต้องการ (กรุณาแจ้งก่อนสั่งซื้อกับทางจีนทุกครั้งเพื่อให้ลูกค้าเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน)
2. ง่ายต่อการเชคสต๊อก ทำข้อมูลสินค้าครบถ้วน เนื่องจากทางโรงงานก่อนโหลดตู้จะเป็นผู้ประเมินจำนวนสินค้าทั้งหมดให้ลูกค้าพร้อมทั้งแยกการจัดเรียงตู้ให้ เมื่อถึงไทย CVT ลากตู้สินค้าไปที่ลูกค้า ลูกค้าทำการแยกแยะประเภทสินค้าและลงของได้ทันทีหลังจากที่เรือเข้าไทย CVT จัดการเคลียร์ออกได้ไวสุด 1 วันทำการ (ขึ้นกับประเภทสินค้า)
3. รวดเร็วกว่า หลังโรงงานโหลดสินค้าเสร็จ ทางCVTทำการส่งออกและนำเข้ามาไทย โดยการเลือกรอบเรือที่ไวที่สุดและเหมาะกับประเภทสินค้าของท่านมากที่สุด เฉลี่ยการนำเข้าแบบเหมาตู้ FCL อยู่ที่ 8-12 วันทำการ (เร็วกว่ารวมตู้LCL อย่างน้อย 5 วันทำการขึ้นไป)
4. แน่นอนว่าถูกกว่า ต้นทุนต่ำกว่า CVT จัดการหาตู้สินค้าที่มีขนาดเหมาะสมกับสินค้าของท่าน เพื่อให้ได้โหลดสินค้าได้คุ้มค่ากว่า เช่น สินค้าเสื้อผ้ามือสองอัดก้อน ปกติ 1 ตู้สามารถใส่ได้ไม่เกิน 25,000 กิโลหรือ 25 ตัน หากเป็นลูกค้า CVT จัดการตู้พิเศษโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ให้ใส่ได้สูงสุด 28,000 กิโลหรือ 28 ตัน และแน่นอนว่าต้นทุนต่อกิโลสำหรับเสื้อผ้าจากเดิมขนส่งทั่วไปกิโลละ 20 บาททางเรือ หากเหมาตู้จะเหลือเพียง 6-7 บาทต่อกิโลเท่านั้น
ลูกค้านำเข้าจากจีนจำนวนมาก ความต้องการตู้คอนเทนเนอร์ก็สูงมากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าปัจจุบันบริษัทขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ระหว่างประเทศ มีให้ผู้นำเข้าสินค้าจากจีน ไม่ว่าจะเดินทางไปสั่งของเองที่จีน บินไปกับทัวร์แม่ค้า China4trip หรือ สั่งของจากเวบไซส์จีน Ailibaba , 1688 , Taobao และ Tmall ได้เลือกใช้บริการมากมาย แต่มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ที่เป็นผู้นำในแง่ของขนาดธุรกิจ และมีอายุยาวนาน โดยวันนี้ Cvtcargo ได้รวบรวม 10 บริษัทขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ชั้นนำ ที่ได้ชื่อว่ามีศักยภาพในการบรรทุกสินค้า มีชื่อเสียงยาวนานระดับโลก และให้บริการมาตรฐานสากล มาให้ได้รู้จักกัน จะมีบริษัทอะไรบ้างมาติดตามกันได้เลย
ขอแนะนำ CVT Easy 2020 ผู้ช่วยเบอร์ 1 สำหรับคนเริ่มต้นทดลองขาย
10 บริษัทขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ชั้นนำ
APM-Maersk
เป็นสาขาหนึ่งของบริษัท AP Moller-Maersk Line เป็นบริษัทขนส่งสัญชาติเดนมาร์ก ที่รู้จักในวงกว้าง สำหรับสายการเดินเรือสมุทร ตั้งแต่ปี 1904 ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนเรือ 711 ลำ มีความจุประมาณ 4,087,480 TEU (หน่วยเทียบเท่า 20 ฟุต)
MSC : Mediterranean Shipping Company
เป็นบริษัทเดินเรือเมดิเตอร์เรเนียน ย่อมาจาก MSC เป็นบริษัทขนส่งระหว่างประเทศของสวิสเซอร์แลนด์ ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1970 ปัจจุบันมีเรือจัดส่งสินค้ามากกว่า 524 ลำ และกลุ่มบริษัทถูกจัดอันดับให้เป็น หนึ่งในบริษัทขนส่งสินค้าที่กว้างขวางที่สุดในโลก ความจุของตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 3,308,955 TEU
COSCO บริษัทขนส่งทางทะเลของจีน
บริษัท China Ocean Shipping เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทชั้นนำ ด้านการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ ปัจจุบันมีการดำเนินงานของบริษัทมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ด้วยจำนวนเรือ 461 ลำ และความจุของตู้คอนเทนเนอร์อยู่ที่ 2,792,448 TEU
CMA-CGM
เป็นบริษัทเรือขนส่งสินค้าชั้นนำของฝรั่งเศส ได้เข้ามามีบทบาทในปี 1978 เป็นผลมาจากการควบกิจการ ระหว่างบริษัทขนส่งที่จัดตั้งขึ้นก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน Jacques Saade ผู้เป็นหัวหน้าของบริษัท ได้เป็นแรงผลักดัน และอยู่เบื้องหลังของการดำเนินงาน ปัจจุบันมีเรือมากกว่า 505 ลำ โดยให้บริการ 150 เส้นทางทั่วโลก และมีความจุตู้คอนเทนเนอร์ 2,643,745 TEU
Hapag-Lloyd
มีสำนักงานที่ตั้งอยู่ในเยอรมัน เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง และโดดเด่นที่สุด ในแง่บริษัทการเดินเรือระหว่างประเทศ ก่อตั้งขึ้นในปี 1970 โดยเป็นผลมาจากการควบกิจการระหว่างสายฮัมบูร์ก-อเมริกัน และบริษัท Lloyd เยอรมันเหนือ ปัจจุบันมีจำนวนเรือยาวมากกว่า 231 ลำ รองรับความจุของตู้คอนเทนเนอร์ 1,644,565 TEU
ONE-Ocean Network Express
ก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2017 เป็นการรวมตัวกันของบริษัทขนส่งหลักทั้ง 3 แห่ง คือ MOL, ‘K’-Line และ NYK เพื่อบริการในเอเชีย ละตินอเมริกา และแอฟริกา ถึงแม้จะก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น แต่สำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ การเป็นพันธมิตรของทั้ง 3 บริษัท ทำให้มีจำนวนเรือรวม 217 ลำ ความจุของตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 1,521,702 TEU ทำให้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งตู้คอนเทนเนอ ร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Evergreen Line
ก่อตั้งขึ้นในปี 1968 โดย ดร. Yung-Fa Chang ปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานตั้งอยู่ทั่วโลกและมีจำนวนเรือมากกว่า 203 ลำ และมีเรือบรรทุกสินค้าขนาดความจุ 1,219,406 TEU
Yang Ming Marine Transport
ตั้งอยู่ในเมืองจีหลงของประเทศไต้หวัน เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ก่อตั้งเมื่อปี 1972 โดยให้บริการทั่วเอเชีย, ยุโรป, อเมริกา และออสเตรเลีย มีเรือจำนวน 96 ลำ และมีความจุของตู้คอนเทนเนอร์ 627,725 TEU
Hyundai Merchant Marine
เป็นบริษัทขนส่งตู้สินค้าชั้นนำที่อยู่ในเกาหลีใต้ มีเรือทั้งหมด 72 ลำ ซึ่งมีความจุในการบรรทุกสินค้า 424, 724 TEU ถือเป็นบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำของโลก ที่ทำงานอย่างครบวงจร ทั้งนี้ HMM ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของเกาหลีอีกด้วย
PIL Pacific International Line
ก่อตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี 1967 เป็นหนึ่งในเจ้าของเรือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งตู้สินค้าชั้นนำของโลก PIL ให้บริการมากกว่า 500 แห่ง ใน 100 ประเทศทั่วโลก ด้วยจำนวนเรือ 128 ลำและมีความจุในการบรรทุกสินค้า 420,039 TEU
กลับสู่สารบัญ7 ปัจจัยในการเลือกใช้บริการขนส่ง
บริษัทขนส่งมีมาตรฐาน
ผู้นำเข้ามือใหม่ที่เพิ่งเริ่มใช้บริการขนส่ง หรือบริการนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นครั้งแรก สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ คือชื่อเสียงของบริษัทขนส่ง มีตัวตนที่เชื่อถือได้ มีจดบริษัทที่ถูกต้อง ซึ่งบริษัทที่เข้าข่ายดังกล่าว มักจะมีระบบบริหารจัดการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ดำเนินการอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การรับสินค้าเข้าสู่ขั้นตอน คัดแยก และการจัดส่งสินค้าถึงมือผู้รับ
ขนส่งตรงเวลา และสินค้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์
ดูระยะเวลาการดำเนินกิจการไม่น้อยกว่า 5 ปี มีเวบไซส์และช่องทางการติดต่อ รวมถึงที่ตั้งบริษัท ดูจากผลงานรีวิวการใช้บริการที่ผ่านๆ มา เพื่อประกอบการตัดสินใจ เรื่องของเวลา การเชคสถานะสินค้า Line Notify ระบบการแจ้งเตือนสินค้าเข้าไทยต่างๆ
มีจุดรับสินค้าหลายจุด
ยิ่งผู้ให้บริการโลจิสติกส์ มีจุดรับสินค้า-โกดังจีนหลายจุด ยิ่งทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกที่มากขึ้น สามารถเลือกร้านโรงงานจีนได้หลากหลาย โดยคำนึงถึงสินค้าถูกสเปก ราคาดี ร้านจีนพูดคุยเข้าใจกัน ส่วนเรื่องค่าขนส่งในจีน บริษัทขนส่งเช่น CVT CARGO ช่วยลูกค้าในการลดต้นทุนเพราะไม่ว่าจะดิวสั่งซื้อกับโรงงานร้านจีนเมืองไหน ก็สามารถเลือกส่งลงโกดังจีนที่ใกล้ที่สุด เพื่อให้เหลือกำไรมากกว่า มากขึ้น
การให้บริการทันสมัย
คือมีระบบให้บริการที่ทันสมัย และหลากหลาย เช่น มีระบบการให้บริการทางออนไลน์ และมีตัวเลือกให้บริการขนส่ง ทั้งทางรถEK หรือทางเรือSEA เมื่อสินค้าถึงไทยมีช่องทางการจัดส่งต่อในไทยให้เลือก โดยคำนึงถึงราคาไม่สูง คุ้มค่ามากกว่า เช่น มีบริการชำระเงินปลายทาง (COD) แบบขนส่งเอกชนในไทย
มีระบบติดตาม และตรวจสอบสถานะสินค้า
นอกเหนือไปจากการให้บริการทางเว็บไซต์ ในปัจจุบันทุกบริษัทขนส่ง มักจะมีแอปพลิเคชันในการติดตาม และตรวจสอบสถานะสินค้า เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าตรวจสอบสถานะได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังใช้เป็นช่องทางในการชำระเงิน ได้ตามวันเวลาที่สะดวกอีกด้วย
มีฝ่ายบริการลูกค้าช่วยตอบปัญหาได้ทันที
ผู้ให้บริการขนส่งควรมีฝ่ายบริการลูกค้า หรือเป็นระบบ Call Center นั้น เพราะจะแสดงถึงความเป็นมืออาชีพของบริษัท ความเอาใจใส่ต่อลูกค้า และให้ข้อมูลลูกค้าได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดยบริษัทขนส่งที่มีระบบดังกล่าว มักจะเพิ่มภาพลักษณ์ให้ดูน่าเชื่อถือ และช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม
กลับสู่สารบัญ10 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์
1. ตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งถูกคิดค้น และจดสิทธิบัตรขึ้นในปี 1956
โดยชายชาวอเมริกันนามว่า Malcom Mclean เขาเคยเป็นคนขับรถบรรทุกมาก่อน ต่อมาได้คิดค้นการออกแบบวิธีขนส่งสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ และได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมขนส่งด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ ที่ช่วยลดต้นทุนการขนส่งไปได้มากกว่า 90%
2. ประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมการขนส่งชิปปิ้ง
- Dry Container เป็นตู้คอนเทนเนอร์ ที่นิยมใช้กันมากที่สุด เหมาะสำหรับการจัดส่งวัสดุแห้ง มีขนาดตั้งแต่ 10, 20 และ 40 ฟุต
- Flat Rack Containers Flat Rack เป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่มีด้านสามารถพับเก็บได้ เพื่อรองรับการขนสินค้าที่มีน้ำหนัก และขนาดใหญ่ เช่น อุปกรณ์ก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง หรือเครื่องจักรกลหนัก
- Open Top Containers มีส่วนที่สามารถถอดออก และเปิดหลังคาด้านบนได้ เหมาะสำหรับบรรจุวัสดุ หรือสินค้าที่มีขนาดสูง
- Side Open Container มีช่องเปิดที่เก็บด้านข้าง (ด้านยาว) เพื่ออำนวยความสะดวกในการบรรทุก และขนถ่ายสินค้าที่เฉพาะเจาะจง เช่น ยานพาหนะขนส่ง
- IOS (Refrigerated ISO Containers) เป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่ควบคุมอุณหภูมิเย็นคงที่ เพื่อใช้ขนส่งสินค้าที่เน่าเสียได้ง่าย เช่น ผักผลไม้ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนมหรืออาหารทะเล
3. ขนาดของตู้คอนเทนเนอร์
ตามมาตรฐานแล้วจะมี 2 ขนาด คือ ขนาด 20 (เหมาะสำหรับสินค้าหนัก เช่น เครื่องจักร) และ 40 ฟุต (เหมาะสำหรับสินค้าเบา ที่มีจำนวนมาก)
4. วัสดุ และโครงสร้างของตู้คอนเทนเนอร์
- โครงสร้าง ประกอบไปด้วยเสา และคานที่ทำจากเหล็ก ตำแหน่งของเสาอยู่ทั้ง 4 มุมของคอนเทนเนอร์ มีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้มากกว่า 25 ตัน
- ผนัง เป็นส่วนที่มีเอกลักษณ์ มีลักษณะเป็นเหล็กที่พับเป็นลอนๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง มีน้ำหนักเบา และสีที่พ่นทับมีความคงทนต่อสภาพอากาศ และความชื้น
- พื้น โดยทั่วไปเป็นวัสดุบอร์ด หรือไม้
5. การขนส่งแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือตู้ LCL
การขนส่งแบบ LCL (Less Than Container Load) หรือการขนส่งด้วยตู้คอนเทนเนอร์แบบไม่เต็มตู้ นิยมใช้ตู้ High Cube Container (ขนาด 40 ฟุต) สินค้าส่วนใหญ่ที่ขนส่งแบบ LCL มักจะมีน้ำหนักเบา
6. ตู้คอนเทนเนอร์ของแต่ละสายเดินเรือ มีขนาดไม่เท่ากัน
สายการเดินเรือแต่ละสาย มักจะมีการสั่งผลิตตู้คอนเทนเนอร์เป็นของตัวเอง โดยจะมีขนาดของตู้ที่แตกต่างกันไป แต่จะมีขนาดใกล้เคียงกับตู้คอนเทนเนอร์ขนาดมาตรฐาน
7. ตัวเลขท้ายตู้คอนเทนเนอร์ คือ รหัสบอกรายละเอียด
ตัวเลขท้ายตู้คอนเทนเนอร์นั้น เป็นรหัสของตู้ ที่บอกรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์นั้น ซึ่งจะถูกกำหนดด้วยมาตรฐาน ISO 6346 ( มาตรฐานสากลที่ครอบคลุมการเข้ารหัสบัตรประจำตัว และเครื่องหมายของการขนส่ง) และ BIC (Bureau of International Containers) สำนักภาชนะบรรจุระหว่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วย
- รหัสเจ้าของตู้คอนเทนเนอร์
- รหัสระบุประเภทตู้คอนเทนเนอร์
- รหัสการจดทะเบียนตู้คอนเทนเนอร์
- รหัสตรวจสอบความถูกต้อง เจ้าของ ประเภท และการจดทะเบียนตู้คอนเทนเนอร์
- รหัสระบุขนาด และชนิดของตู้คอนเทนเนอร์ เป็นต้น
8. ข้อดี และข้อเสียของตู้คอนเทนเนอร์
ข้อดี
- ขนถ่ายสินค้าได้รวดเร็ว
- ลดความเสียหายของสินค้า และป้องกันการถูกโจรกรรม
- ขนส่งได้ปริมาณมาก
- การสั่งจองเรือระวาง เพื่อขนส่งสินค้า ทำได้สะดวก
- ตรวจนับสินค้าได้ง่าย
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะกับการขนส่งระยะสั้น
- สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่า เมื่อใช้วิธีขนส่งด้วยรถบรรทุก
9. Code ข้างตู้คอนเทนเนอร์ทำไมต้องมี 4 ตัวอักขระ
เป็นอักขระ 4 ตัว ที่แสดงขนาด และชนิดของตู้ไว้ด้วยกัน (Container Size and Type Code) เป็นรหัสตามมาตรฐานที่กำหนด ISO 6346 โดย BIC (International Container Bureau) เช่น Code : 42G1
- 4 คือความยาว 40 ฟุต
- 2 คือความกว้าง และความสูง
- G1 คือชนิดตู้คอนเทนเนอร์ คือ General Purpose
10. อายุการใช้งานของตู้คอนเทนเนอร์
ปกติแล้ว ตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้า (ชิปปิ้ง) สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 20 ปี และด้วยความที่ทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรง จึงไม่ต้องการบำรุงรักษามากนัก เพียงแค่ทำความสะอาดตามตามปกติ ก็จะเพียงพอแล้ว
กลับสู่สารบัญอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้า
ประตูตู้แตกและบุบ
สาเหตุ
- ภาชนะบรรจุไม่ดีพอ และการยึดตู้ไม่แน่นหนา
- เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
- ถูกโจรกรรม
วิธีหลีกเลี่ยง
- ควรหมั่นตรวจสอบผนังตู้คอนเทนเนอร์ และซ่อมแซมปรับปรุงใ ห้อยู่ในสภาพดีเสมอ
ตู้คอนเทนเนอร์สูญหายในทะเล
สาเหตุ
- มักพบในกรณีที่มีพายุ หรือสภาพอากาศเลวร้าย
- การจัดวางสินค้าภายในตู้ไม่ดี หรือมีน้ำหนักไม่สม่ำเสมอกัน เช่น หนักทางด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป
วิธีหลีกเลี่ยง
- หลีกเลี่ยงการเดินเรือในช่วงที่มีมรสุม
- กระจายน้ำหนักสินค้าภายในตู้ให้เท่าๆ กัน
มีรอยบุบ และรอยขีดข่วนบนตู้
สาเหตุ
- อาจเกิดจากการจัดการภาชนะที่ไม่มีประสิทธิภาพ
- การโยนกล่องพัสดุ ที่อาจกระแทกกับพัสดุอื่นๆ
- เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
วิธีหลีกเลี่ยง
- ควรตรวจสอบโครงตู้คอนเทนเนอร์ ณ จุดโหลดสินค้า
- ให้ความรู้กับผู้ควบคุมรถเครนต่างๆ ให้มีการจัดการที่เหมาะสม
ตู้สินค้าร่วงขณะทำการขนถ่าย
สาเหตุ
- อาจเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของรถยกของรถยก
- ตู้สินค้าบรรทุกหนักเกินไป
- ขาดระบบจัดการตู้ที่ดี
วิธีหลีกเลี่ยง
- ควรตรวจสอบสภาพการหล่อภาชนะ
- การบรรทุกสินค้าภายในตู้ ควรกระจายน้ำหนักให้สม่ำเสมอกัน และไม่ควรบรรทุกสินค้ามากจนเกินไป
ตู้ถูกทำลายจากความร้อน
สาเหตุ
- อาจเกิดจากความผิดพลาดของการแจ้งเรื่องภาชนะอันตราย และภาชนะบรรจุ หรืออาจจากอุบัติเหตุเพลิงไหม้
วิธีหลีกเลี่ยง
- ควรปฏิบัติตามกฎ IMDG Code อย่างเคร่งครัด สำหรับวัตถุอันตราย ไม่ควรให้อยู่ใกล้แหล่งพลังงานความร้อน และหลีกเลี่ยงการเก็บไว้ในบริเวณที่อยู่ใกล้กับอุณหภูมิร้อนจัด
ตู้คอนเทนเนอร์ถูกเจาะเป็นรู
สาเหตุ
- ตู้สินค้าอาจถูกเจาะจนเป็นรูได้ จากความผิดพลาดของการยกโดยรถเครน หรืออาจถูกกระแทกจากรถ หรือภาชนะอื่น
วิธีหลีกเลี่ยง
- บริษัทขนส่งควรหมั่นตรวจสอบสภาพของตู้สินค้าอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งบำรุงซ่อมแซมตู้ตามกำหนดเวลา
อุบัติเหตุบนท้องถนน
สาเหตุ
- สภาพอากาศที่เลวร้าย จนไม่สามารถคุมรถให้อยู่ในสภาวะปกติได้
- สภาพถนนที่ย่ำแย่ รวมถึงความประมาท
- พนักงานขับรถหลับใน
วิธีหลีกเลี่ยง
- พนักงานขับรถบนท้องถนนควรมีความเป็นมืออาชีพ รักษาสภาพร่างกายให้พร้อม สำหรับช่วงเวลาทำงาน
สรุปทิ้งท้าย
เลือกวิธีการขนส่งที่เหมาะสมกับสินค้าและจำนวนสินค้า ทำให้ต้นทุนของคุณต่ำกว่าใครๆ ต่อยอดได้/ขยายธุรกิจไปได้ไกลกว่า การเลือกบริษัทขนส่งที่มีบริการที่ครอบคลุม CVT CARGO แนะนำทางเลือกที่ดีกว่าให้คุณเหลือกำไรมากขึ้นแน่นอน