ตู้ขนส่ง หรือตู้คอนเทนเนอร์ ถูกใช้ในการขนส่งสินค้าทั่วโลก ในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ การจัดส่งสินค้าถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด และภาชนะขนส่งเหล่านี้เป็นโครงสร้าง ที่เก็บผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ที่ต้องส่งจากจุดหนึ่ง ไปยังอีกจุดหนึ่ง ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงการขนส่งระบบคอนเทนเนอร์ จะมีข้อมูลอะไรน่าสนใจบ้าง มาติดตามกันได้เลย
ขอแนะนำ CVT Easy 2020 ผู้ช่วยเบอร์ 1 สำหรับคนเริ่มต้นทดลองขาย
ข้อดีที่มากกว่า ของการนำเข้าเหมาตู้คอนเทนเนอร์
การชิปปิ้งสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์นั้น สินค้าทั้งตู้คอนเทนเนอร์เป็นของลูกค้าคนเดียว นับว่าเป็นพัฒนาการอีกขั้นของการนำเข้า บ่งบอกว่าธุรกิจของลูกค้าขยายตัวมากขึ้น สินค้าที่นำเข้าจากจีนมีมากขึ้น แน่นอนต้นทุนต่อชิ้นจะต่ำลง สามารถแข่งขันราคาในตลาดได้ดีกว่า โดยเฉพาะสินค้ายอดนิยมที่คนไทยนำเข้ามาขาย
การเหมาตู้กับ CVT CARGO เป็นการบรรจุสินค้าลงในตู้เหล็กขนาดใหญ่ แล้วทำการขนส่งทางรถบรรทุก หรือเรือเดินทะเล โดยตู้คอนเทนเนอร์นั้น ถูกสร้างมาให้มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพลมฟ้าอากาศ ขนถ่ายสินค้าโดยใช้ปั้นจั่น และสับเปลี่ยนรูปการขนส่งเป็นรูปแบบอื่นๆ ได้ในระหว่างทาง
เช่น จากเรือต่อด้วยรถบรรทุก ปัจจุบัน การขนส่งด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ เป็นที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะการขนส่งจากจีนมาไทย หรือชิปปิ้งจีน แม้ว่าการขนส่งสินค้าด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ จะมีข้อได้เปรียบมากมาย ในการกระจายสินค้า แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างด้วยเหมือนกัน
ข้อดีการขนส่งระบบคอนเทนเนอร์ (เหมาตู้) ในที่นี้หมายถึงทั้งทางเรือSEA และทางรถ EK
- ได้มาตรฐาน สินค้าที่ถูกบรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ ที่สามารถจัดการขนย้ายได้สะดวกสบาย โดยแต่ละตู้คอนเทนเนอร์ จะมีหมายเลขที่ไม่ซ้ำกัน และมีการระบุรหัสขนาด
- ความยืดหยุ่น บรรจุสินค้าที่มีความหลากหลาย เนื่องจากตู้คอนเทนเนอร์ มีหลายประเภทให้เลือก ตามความเหมาะสมกับสินค้า และตู้คอนเทนเนอร์เก่านั้น ยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก เพื่อวัตถุประสงค์อื่น
- ค่าใช้จ่าย การขนส่งด้วยกรเหมาตู้คอนเทนเนอร์ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก เนื่องจากมีราคาไม่แพง ถือว่าการเหมาตู้FCL เช่นจากจีนมาไทยเป็นช่องทางที่นำเข้าราคาถูกที่สุด CVTCARGO โดยเฉพาะทางเรือ SEA
- ความรวดเร็ว การขนส่งที่มีปริมาณน้อย และต้องการจัดส่งรวดเร็ว สามารถย่นระยะเวลาจากเรือ ซึ่งปกติใช้เวลาราว 2-3 สัปดาห์หรือ15-20 วัน ให้เหลือเพียง 3-6 วัน เมื่อเปลี่ยนขนส่งเป็นทางรถบรรทุกEK
- คลังสินค้า ตู้คอนเทนเนอร์เป็นคลังสินค้าด้วยตัวมันเอง สามารถช่วยป้องกันสินค้าที่ถูกบรรจุอยู่ภายในได้
- การรักษาความปลอดภัย สามารถเปิดได้ เฉพาะจุดเริ่มต้น (คือผู้ขาย หรือผู้ส่ง) ที่ศุลกากร และปลายทางเท่านั้น (ผู้ซื้อ) ทำให้ลดความเสียหาย และการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้
ข้อควรระวัง ของการขนส่งระบบคอนเทนเนอร์
- เสี่ยงถูกโจรกรรมและสูญหาย สินค้ามูลค่าสูง อาจเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม ในขณะที่ทำการโหลด หรือถ่ายเทสินค้าบนรถบรรทุก นอกจากนี้ ในแต่ละปีมี ตู้คอนเทนเนอร์สูญหายกว่า 1,500 ตู้ ในทะเล เนื่องจากสภาพอากาศ ในที่นี้เกิดขึ้นในแถบต่างประเทศ สำหรับจีนไทยเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ
- เสี่ยงต่อการขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย ตู้คอนเทนเนอร์ อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการขนย้ายสินค้าผิดกฎหมาย
ลักษณะของตู้คอนเทนเนอร์
ตู้คอนเทนเนอร์ ผลิตจากวัสดุที่เป็นเหล็ก หรืออลูมิเนียม มีโครงสร้างภายนอกแข็งแรง และสามารถวางเรียงซ้อนกันได้ไม่น้อยกว่า 10 ชั้น แต่ละตู้นั้นมีการระบุรายละเอียด เช่น หมายเลขตู้ (Container Number) น้ำหนักของสินค้าที่บรรจุได้สูงสุด เมื่อปิดประตูตู้คอนเทนเนอร์แล้ว จะมีที่ล็อกประตู โดยใช้การคล้องซีล ซึ่งแบบเดิมเป็นตะกั่ว แต่ปัจจุบันเป็นพลาสติก ซึ่งมีหมายเลขกำกับเอาไว้ เพื่อใช้ในการบ่งชี้สถานภาพ
ลักษณะของเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์
ต้องเป็นเรือที่ถูกออกแบบมา สำหรับบรรทุกตู้สินค้าโดยเฉพาะ โดยแต่ละลำจะมีที่ยกตู้ เรียกว่า Quay Cranes ประมาณ 1-4 ตัว ซึ่ง Crane แต่ละตัวนั้น จะทำการยก หรือลำเลียงตู้ที่วางอยู่ตามความลึกของเรือ โดยจะวางเรียงกันเป็นแบบแถว ปัจจุบันเรือบรรทุกมีขนาดเฉลี่ยประมาณ 2,700 TEU หากเรือที่มีขนาดใหญ่ จะเรียกว่า SX Class หรือ Super Post Panamax จะมีความยาวเฉลี่ย 320×330 เมตร กินน้ำลึกอยู่ประมาณ 13-14 เมตร บรรทุกตู้สินค้าได้สูงสุดประมาณ 8,000 TEU
ในอนาคตกำลังมีการต่อเรือขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก สามารถช่วยให้ขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ได้ 18,000 TEU และด้วยขนาดเรือที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นนี้ จึงมีผลทำให้ต้นทุนโดยรวมลดลง ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน หรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับแรงงาน
กลับสู่สารบัญใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายของตู้คอนเนอร์ขนส่งสินค้า
เป็นเรื่องยากมาก ที่จะตัดสินว่า ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหาย และแหล่งที่มาของความเสียหายนั้นคืออะไร สำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในขั้นตอนการจัดส่ง ที่มีส่วนรับผิดชอบดังนี้
- ลูกเรือที่โรงงาน / ผู้จำหน่ายที่โหลดสินค้าลงในตู้คอนเทนเนอร์
- คนขับรถบรรทุกที่บรรทุกคอนเทนเนอร์ไปยังคลังสินค้า
- บริษัทขนส่งสินค้า หรือชิปปิ้ง ที่นำตู้คอนเทนเนอร์ไปยังท่าเรือ
- ลูกเรือที่ท่าเรือต้นทางต้นทาง
- ลูกเรือที่ท่าเรือถ่ายโอน
- ลูกเรือที่ท่าเรือปลายทาง
- เจ้าหน้าที่ศุลกากร
- รถบรรทุกที่ปลายทางจัดการการส่งมอบสินค้าขั้นสุดท้าย
สรุปทิ้งท้าย
ดังนั้นการเลือกใช้ตู้คอนเทนเนอร์ จำเป็นต้องคำนึงถึงประเภทสินค้า ปริมาณ ขนาด คุณสมบัติเฉพาะ ค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งประกันการขนส่งสินค้า เพื่อให้สามารถขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยง ของสินค้าระหว่างการขนส่ง โดยเฉพาะสินค้าที่มีความเปราะบาง สินค้าที่ต้องรักษาอุณหภูมิ หรือมีคุณสมบัติเฉพาะ เป็นต้น ซึ่งควรเลือกบริษัทขนส่งที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน และความเป็นมืออาชีพ เพื่อให้สามารถขนส่งสินค้าได้อย่างเหมาะสม และปลอดภัย บริการรองรับครบวงจรกับ CVTCARGO ที่มีระบบรองรับทั้งลูกค้าใหม่เพิ่งเริ่มธุรกิจกับ CVTEASY และลูกค้าขายส่งในตลาดแหล่งขายส่งรวมถึงในนามบริษัทโรงงานในไทยใช้บริการกับ CVTCARGO ไม่เพียงเท่านี้ยังตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการเอกสารนำเข้า ส่งมีจำนวนแต่จากหลายโรงงาน #เรทครึ่งตู้ รองรับเพื่อให้คุณจ่ายเท่าที่ใช้จริง “จ่ายเท่าที่ใช้ เหลือกำไรมากกว่า”